ดูหน้า
ดูหน้า
Leadership Skills - การพัฒนาทักษะการบริหาร สำหรับผู้บริหารระดับสูง
การพัฒนาทักษะการบริหาร สำหรับผู้บริหารระดับสูง
หลักการและเหตุผล
ผู้บริหารระดับสูงควรให้ความสำคัญกับงานเชิงกลยุทธ์โดยการทำงานผ่านการบริหารงานทีมงาน ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ดังนั้น ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จจึงต้องพัฒนาตัวเองใน 3 เรื่องหลัก ดังนี้
- การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking)
- การพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership)
- การสร้างทัศนคติเชิงบวก (Positive Attitude)
ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและผันผวนมาก ทำให้ผู้บริหารสมัยใหม่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง บทบาทที่เคยแค่ทำหน้าที่บริหารจัดการและสั่งการ เพื่อให้ทีมงานดำเนินการตามเป้าหมายนั้น ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ผู้บริหารต้องปรับตัวเองมาเป็นผู้นำเพื่อการปฏิรูปซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนในองค์กร ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ และทำให้คนเก่ง (Talent People) ทำงานตามความสามารถและมุ่งมั่นสู่เป้าหมายขององค์กร
การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่แกนกลางขององค์กรโดยการบริหารงานผ่านทีมงานผู้บริหาร และผลักดันผลงานผ่านทีมงานของฝ่ายต่างๆ ดังนั้นความสำเร็จขององค์กรจึงผูกกับผู้บริหารค่อนข้างสูงมาก
องค์กรจึงควรให้ความสำคัญในการพัฒนาผู้บริหารให้เกิดภาวะความเป็นผู้นำ และสามารถคิดในเชิงกลยุทธ์
การบริหารงานอย่างเป็นระบบ มีความเป็นมืออาชีพ ก็จะทำให้ทีมงานปฏิบัติงานอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะรับมอบหมายงานที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้นได้ เพราะมีระบบการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทำให้สามารถเอาชนะการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้นได้
การพัฒนาทีมงานในปัจจุบัน จำเป็นที่ต้องใช้บทบาทของการเป็นโค้ชมากขึ้น เพราะบุคลากรไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามคำสั่งได้เพียงอย่างเดียวเพราะงานมีความยุ่งยากและซับซ้อน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานต้องเป็นผู้เลือกวิธีการเหมาะสมในแต่ลักษณะงานด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้น การโค้ชชิ่ง (Coaching) จึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด
การสร้างทัศนคติเชิงบวกในการทำงานจะทำให้สามารถก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ ไปได้ โดยไม่คิดว่าเป็นปัญหา แต่เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถและการมีทัศนคติเชิงบวกก็จะสามารถเอาชนะอารมณ์เชิงลบและจูงใจให้ทีมงานเกิดความกระตือรือร้นได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
วัตถุประสงค์
- เพื่อทำให้ผู้บริหารมองเห็นแนวความคิดการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์และพัฒนาภาวะผู้นำได้ด้วยตัวเอง
- เพื่อให้สามารถนำภาวะผู้นำของตัวเองออกมาใช้ในการบริหารทีมงานได้อย่างมีประสิทธิผล
- เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริหารปรับเปลี่ยนวิธีคิดและแนวทางการปฏิบัติงานของตัวเองเสียใหม่ ทำให้บรรลุเป้าหมายได้
- เพื่อให้เทคนิคและแนวทางในการโค้ชชิ่ง (Coaching) ทีมงานให้สามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ให้มากที่สุด
- เพื่อสร้างแนวความคิดในการทำงานและบริหารงานด้วยทัศนคติเชิงบวกมากยิ่งขึ้น
เนื้อหา
-
Day I : พัฒนาตัวเองในฐานะผู้นำ
- ผู้นำที่ดีขององค์กร
- สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำ
- คุณคือผู้นำ Style ไหน ?
- ความเชื่อเกี่ยวกับผู้นำ
การสร้างทัศนคติเชิงบวกในการบริหารงาน
- หลุมพรางทางความคิดที่สกัดกั้นภาวะผู้นำ
- ก้าวข้ามอุปสรรคด้วยความเชื่อมั่น
- ทัศนคติเชิงบวกคือทางเลือก
การพัฒนาคุณสมบัติภาวะผู้นำในตัวเอง
- การมีวินัยในตัวเอง
- การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
- ความรับผิดชอบ
- การสร้างมนุษยสัมพันธ์
เทคนิคการจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา
- เรียนรู้ธรรมชาติของมนุษย์
- การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
- เทคนิคการจูงใจให้ผู้อื่นยอมรับ
- การบริหารทีมงาน ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน
- การกำหนดสิ่งที่จะนำไปพัฒนาทีมงาน
DAY II : พัฒนางาน และทีมงานในฐานะผู้จัดการและโค้ช
- การบริหารจัดการผลการปฏิบัติงาน
- หัวใจสำคัญของการจัดการผลการปฏิบัติงาน
- กระบวนการการจัดการผลการปฏิบัติงาน
- เทคนิคการจัดการผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิผล
- การประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริง
การบริหารงานอย่างเป็นระบบ
- การกำหนดเป้าหมาย
- การจัดทำแผนงานเชิงกลยุทธ์
- การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ
- การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
- การประชุมอย่างสร้างสรรค์
- การกำหนดแนวทางการบริหารงานของตัวเอง
การพัฒนาการสอนทีมงาน (Coaching Skill )
- หลักการสำคัญของโค้ช
- ทักษะการโค้ชชิ่ง
- แนวทางการดำเนินการโค้ช
- การออกแบบโปรแกรมการโค้ชของตัวเอง
การบริหารจัดการทีมงาน
- การพัฒนาศักยภาพทีมงาน
- การบริหารทีมงานในฐานะผู้นา
- การสอนทีมงานในฐานะโค้ช
- การประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริง
รูปแบบการฝึกอบรม
บรรยาย และ Workshop กรณีศึกษา ฝึกปฏิบัติ
การประเมินผล
- การทดสอบความรู้ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม (Pre test - Post test)
- มีระบบการประเมินผลในการฝึกอบรม และนำมาวิเคราะห์เพื่อชี้วัดความสำเร็จ
ระยะเวลา
2 วัน
เหมาะสำหรับ
ผู้บริหารระดับสูง
13 มีนาคม 2563
ผู้ชม 13213 ครั้ง