ดูหน้า
ดูหน้า
Leadership Skills - สุดยอดผู้นำตามสถานการณ์ (Situational Leadership)
สุดยอดผู้นำตามสถานการณ์
(Situational Leadership)
หลักการและเหตุผล
การบริหารงานในยุคปัจจุบันนั้น หัวหน้างานถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะส่งผ่านนโยบายของระดับบริหารให้กับฝ่ายปฏิบัติการ เป็นผู้ที่ต้องร่วมรับผิดชอบต่อความเป็นไปขององค์กรและความเป็นไปของลูกน้อง เป็นผู้ที่สามารถสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานระดับล่างได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ที่สามารถทำลายขวัญกำลังลูกน้องได้ดีเช่นกัน หัวหน้างานบางคนที่เพิ่งได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้างาน ไม่สามารถรับมือกับสถานภาพ บทบาทหน้าที่ใหม่ได้ทัน ทำให้เกิดปัญหาการบังคับบัญชา เกิดความไม่สบายใจขึ้นกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน เพราะเขาเหล่านั้นใช้สัญชาตญาณในการแก้ปัญหามากกว่าการใช้องค์ความรู้ที่ได้รับการพัฒนาได้รับการพิสูจน์มาเป็นเวลานาน ทำให้หลายครั้งปัญหาที่เล็กๆกลับลุกลามใหญ่โต จนสร้างความยากลำบากในการตามแก้ปัญหาให้อีกหลายเท่าตัว และในบางกรณีที่หัวหน้างานที่เป็นหัวหน้างานมานานแล้ว จนทำให้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่ทุกวันนี้เพียงพอ เหมาะสมแล้ว ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก มีปัจจัยที่ซับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน การดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการ อยู่เสมอ มีกฎระเบียบเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นหัวหน้างานไม่ว่าจะใหม่หรือเป็นมานานแล้ว หัวหน้างานที่มีคุณภาพนั้นนอกจากจะต้องมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์และความรับผิดชอบในหน้าที่แล้ว การรู้จักที่จะบริหารคนเป็นอีกบทบาทหน้าที่ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากทำงานมีประสิทธิภาพ แต่ไม่เป็นที่ยอมรับของพนักงานก็เท่ากับว่าไม่ประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่ซึ่งหัวหน้างานต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเผชิญอยู่อย่างทันท่วงทีและเป็นหัวหน้าทีสามารถครองใจผู้ร่วมงานได้อย่างเต็มหัวใจ
ดังนั้น หลักสูตร "Situational Leadership" นี้จึงถูกรังสรรค์ขึ้น เพื่อให้หัวหน้างานเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ การบริหารทีมงาน เสริมสร้างจิตวิทยาในการปกครองลูกน้อง รวมถึงการสร้างภาวะผู้นำ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้ผู้นำเข้าใจถึงความสำคัญและบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน ในฐานะผู้นำทีมงาน
- เพื่อให้สามารถพัฒนาภาวะความเป็นผู้นำด้วยตัวคุณเอง
- เพื่อให้ผู้นำทราบถึงวิธีการลดปัญหา ความขัดแย้ง ด้านการบริหารระหว่างผู้นำกับลูกน้อง
- สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้บรรลุเป้าหมายแห่งความสำเร็จ
เนื้อหา
1. การเปลี่ยนกรอบความคิด (Paradigm Shift) มีความสำคัญอย่างไรต่อการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ
- การเปลี่ยนกรอบความคิด(Mindset)
- ทัศนคติและมุมมองในการทำงานเป็นทีม
2. บทบาทและหน้าที่ของผู้นำยุคใหม่ (Modern Leadership Roles)
- ผู้นำทำอะไร
- ผู้นำกับผู้จัดการแตกต่างกันอย่างไร
- บัญญัติของผู้นำ
3.คุณลักษณะต่าง ๆ ของ Leadership ยุคใหม่
- รู้จัก เข้าใจคุณลักษณะพฤติกรรมของผู้นำใน 4 มิติ (DISC Model)
- ประเมินคุณลักษณะและพฤติกรรมของตนเอง (Self-Assessment-Your Style)
- การวิเคราะห์คุณลักษณะของลูกน้องในแต่ละ Style จากการสังเกต
- เทคนิคการสื่อสาร การมอบหมายงาน การติดตามงานกับลูกน้องในแต่ละ Style
- คุณจะรับมือและสื่อสารกับลูกน้องแต่ละ Style ได้อย่างไร?
4. บทบาทและหน้าที่ ความรับผิดชอบของหัวหน้างานยุคใหม่ (Role & Responsibilities of “SUPERVISOR")
5. การเป็นผู้นำตามสถานการณ์ (Situational Leadership)
- การวิเคราะห์ศักยภาพการทำงานเพื่อใช้ Empowerment
- สไตล์การนำแบบ S1 S2 S3 S4 และลูกน้องแบบ D1 D2 D3 D4
- การประยุกต์ใช้ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ต่าง ๆ
- การลื่นไหลการนำตามคนที่ต่างกันและสถานการณ์ต่างกัน
- การบริหารและสร้างสมดุลของพนักงานที่แตกต่างกัน
- สไตล์การนำลูกน้องแต่ละ Style
6.การสร้างความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement)
7.ความสำคัญและกระบวนการสร้างความศรัทธาและเชื่อถือ
- สร้างความไว้วางใจ (Build Trust) / ตอกย้ำสิ่งที่ดี
- เมื่อเกิดความผิดพลาด จงเบี่ยงเบนพลัง
- วิธีการชมเชยและการตอบสนอง
8.การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน
- Play : เล่นให้เป็นงาน
- Make Their Day : สร้างสรรค์วันดี
- Be There : อยู่ตรงนั้น
- Choose Your Attitude : เลือกทัศนคติ
การประเมินผล
- การทดสอบความรู้ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม (Pre test - Post test)
- มีระบบการประเมินผลในการฝึกอบรม และนำมาวิเคราะห์เพื่อชี้วัดความสำเร็จ
รูปแบบการฝึกอบรม
- การบรรยายแบบมีส่วนร่วม (Participative Techniques)
- การระดมความคิดเห็น (Brainstorming)
- แบบวิเคราะห์พฤติกรรมรายบุคคล (Personality Test)
- เรียนรู้จากสื่อมัลติมีเดีย
- Workshop
ระยะเวลา
1 วัน
25 มีนาคม 2563
ผู้ชม 2442 ครั้ง